การป้องกันโรคไข้เลือดออก
“โรคไข้เลือดออก” เป็นโรคติดต่อที่เกิดจากเชื้อไวรัสเดงกี ซึ่งมียุงลายเป็นพาหะนำโรค หลังจากถูกยุงที่มีเชื้อกัดจะอยู่ในร่างกายคนประมาณ 5-8 วัน ผู้ป่วยจะเริ่มมีอาการ มีไข้สูงลอย 2-7 วัน มีจุดเลือดออกใต้ผิวหนัง
โรคนี้เกิดขึ้นได้ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ และมักระบาดในฤดูฝน เพราะมียุงเพิ่มมากขึ้น ยุงลายอาศัยอยู่ในภายในบ้านและรอบ ๆ บ้าน ชอบดูดกินเลือดคนเวลากลางวัน ผู้ป่วยที่ติดเชื้อไข้เลือดออกอาจมีอาการเพียงเล็กน้อย หรืออาจจะเกิดอาการรุนแรงจนเสียชีวิต ความรุนแรงของการติดเชื้อขึ้นกับอายุ ภาวะภูมิคุ้มกัน และความรุนแรงของเชื้อ
ลักษณะสำคัญของไข้เลือดออกคือ
ไข้สูงเฉียบพลัน ประมาณ 2-7 วัน
เบื่ออาหาร หน้าแดง ปวดศีรษะ ร่วมกับอาการคลื่นไส้อาเจียน และมีอาการปวดท้องร่วมด้วย
บางรายอาจมีจุดเลือดสีแดงขึ้นตามลำตัว แขน ขา อาจมีเลือดกำเดาออกหรือเลือดออกตามไรฟัน และถ่ายอุจจาระดำเนื่องจากเลือดออก และอาจทำให้เกิดอาการช็อกได้
ในรายที่ช็อกจะสังเกตได้จากอาการไข้ลดแต่ผู้ป่วยซึมลง ตัวเย้น ชีพจรเบาเร็ว หมดสติ หากรักษาไม่ทันอาจเสียชีวิตได้
สาเหตุ และเชื้อที่เป็นสาเหตุของไข้เลือดออก
โรคไข้เลือดออก เป็นโรคติดต่อที่เกิดจากยุงลายบ้าน ( Aedes aegypti ) ตัวเมีย บินไปกัดคนที่ป่วยเป็นไข้เลือดออก โดยเฉพาะช่วงที่มีไข้สูง เชื้อไวรัสแดงกีจะเพิ่มจำนวนในตัวยุงประมาณ 8-10 วัน เชื้อไวรัสแดงกีจะไปที่ผนังกระเพาะและต่อมน้ำลายของยุง เมื่อยุงกัดคนก็จะแพร่เชื้อสู่คน เชื้อจะอยู่ในร่างกายคนประมาณ 2-7 วันในช่วงที่มีไข้ หากยุงกัดคนในช่วงนี้ก็จะรับเชื้อไวรัสมาแพร่ให้กับคนอื่น ซึ่งส่วนใหญ่มักจะเป็นเด็ก โรคนี้ระบาดในฤดูฝน ยุงลายชอบออกหากินในเวลากลางวัน
ลูกน้ำของยุงลายบ้าน จะอยู่ในภาชนะขังน้ำชนิดต่างๆ ที่มนุษย์สร้างขึ้น (man-made container) ทั้งที่อยู่ภายในบ้าน และบริเวณรอบๆ บ้าน เช่น โอ่งน้ำดื่มน้ำใช้ บ่อซีเมนต์เก็บน้ำในห้องน้ำ ถ้วยหล่อขาตู้กับข้าวกันมด แจกัน ภาชนะเลี้ยงพลูด่าง จานรองกระถางต้นไม้ ยางรถยนต์เก่าและเศษวัสดุต่างๆที่มีน้ำขัง เป็นต้น
ลูกน้ำยุงลายสวน มักเพาะพันธุ์อยู่ในแหล่งเพาะพันธุ์ธรรมชาติ (natural container) เช่น โพรงไม้ โพรงหิน กระบอกไม้ไผ่ กาบใบพืชจำพวกกล้วย พลับพลึง หมาก ฯลฯ ตลอดจนแหล่งเพาะพันธุ์ที่มนุษย์สร้างขึ้นและอยู่บริเวณรอบๆบ้านหรือในสวน เช่น ยางรถยนต์เก่า รางน้ำฝนที่อุดตัน ถ้วยรองน้ำยางพาราที่ไม่ใช้แล้ว หรือแม้แต่แอ่งน้ำบนดิน
โรคไข้เลือดออก เชียงใหม่น่าห่วง ติดอันดับ 4 เขตบริการสุขภาพที่ 1
สถานการณ์โรคไข้เลือดออก จ.เชียงใหม่ อยู่ลำดับที่ 47 ของประเทศ และอยู่ลำดับที่ 4 ของเขตบริการสุขภาพที่ 1 พบผู้ป่วย 60 ราย อัตราป่วย 3.46 ต่อแสนประชากร ขณะนี้ยังไม่พบผู้เสียชีวิตจากโรคไข้เลือดออก ขณะนี้ได้ขอความร่วมมือ ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนร่วมมือ ในการกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงการ จัดการขยะและสิ่งแวดล้อม เนื่องจากฝนเริ่มตกทำให้มีแหล่งเพาะพันธุ์ยุงเพิ่มมากขึ้นไข้เลือดออก เป็นกลุ่มโรคระบาดที่มักจะเกิดขึ้นในช่วงฤดูฝน เนื่องจากยุงที่เป็นพาหะนำเชื้อโรค มีแหล่งเพาะแพร่พันธ์ จากแหล่งน้ำ-น้ำท่วมขัง ปีนี้กำหนดพื้นที่เป้าหมายหลักการดำเนินการ ไม่ให้มีแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลายในพื้นที่ 6 ร. คือ โรงเรือน โรงเรียน โรงพยาบาล โรงแรม โรงงาน และโรงธรรม ปัจจุบันพบว่ามีการแพร่ระบาดเกิดขึ้น ได้เกือบทุกพื้นที่และทุกเวลา ไม่เลือกฤดูกาล
ช่วงปีที่ผ่านมาเชียงใหม่ อยู่อันดับ 22 ของประเทศ ใน 25 อำเภอ 2,080 หมู่บ้านนั้น อ.เมือง น่าห่วง ส่วนแม่อาย จอมทอง แม่ริม ต้องเฝ้าระวัง จากการเฝ้าระวังอำเภอที่มีอัตราป่วยสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ อ.เมือง,แม่แตง, สันทราย, ดอยสะเก็ด และแม่ริม ที่ผ่านๆมา ผู้เสียชีวิตทั้งหมด เป็นผู้ใหญ่มากกว่าเด็ก โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคเรื้อรัง อ้วนมีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง คาดว่าตลอดปี ไทยจะพบผู้ป่วย 7-8 หมื่นรายสาธารณสุขได้ประสานความร่วมมือกับทุกท้องถิ่นทุก อปท.ให้ร่วมกันรณรงค์ การกำจัดแหล่งเพาะลูกน้ำยุงลาย ซึ่งที่ผ่านมา ทาง ทม.แม่โจ้ร่วมกับ 19 ชุมชน ก็ดำเนินการจัดการมาอย่างต่อเนื่อง ให้เป็นพื้นที่ปลอดลูกน้ำยุงลาย ปีที่มีการแพร่ระบาดมากและรุนแรง
วิธีการป้องกันการเกิดโรคไข้เลือดออก ทำได้โดยกำจัดพาหะนำโรคอย่างยุงลายบ้านและยุงลายสวนที่ออกหากินในเวลากลางวันเป็นหลัก รวมถึงการดูแลรักษาสุขภาพและการใช้ชีวิต ดังนี้
- กำจัดยุงลายที่เป็นพาหะนำโรค ทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายในบริเวณบ้านและชุมชน คว่ำ ปิดฝาภาชนะ หรือไม่ปล่อยให้ภาชนะมีน้ำขังเพื่อป้องกันยุงมาวางไข่ ใส่ทรายอะเบท (ABATE) ตามภาชนะใส่น้ำ อย่างแจกัน ถังเก็บน้ำ เพื่อกำจัดลูกน้ำยุงลาย เลี้ยงปลาให้กินลูกน้ำยุงลายเช่น ปลากัด ปลาหางนกยูง ฉีดพ่นยาฆ่าแมลงหรือสารเคมีกำจัดยุงเป็นระยะ โดยขณะฉีดพ่นควรแต่งกายอย่างมิดชิด สวมหมวก ถุงมือ และหน้ากากเพื่อป้องกันสารเคมีเข้าสู่ร่างกาย หรือแจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขหากพบว่ามีการระบาดของยุงในชุมชน
- ป้องกันการติดเชื้อ แต่งกายมิดชิด สวมเสื้อและกางเกงขายาวเมื่อออกนอกบ้าน ฉีดสเปรย์หรือทาครีมป้องกันยุง หลีกเลี่ยงการอยู่ในแหล่งชุมชนที่มีคนจำนวนมากและพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อ ไม่อยู่ในบริเวณที่อับชื้นหรือตามมุมมืด ติดมุ้งลวดที่ประตูและหน้าต่าง ตรวจเช็คความเรียบร้อยของประตู หน้าต่าง ผนังบ้าน ไม่ให้มีรูหรือช่องให้ยุงเข้ามาภายในบ้านได้
- สร้างภูมิคุ้มกันที่ดี กินอาหารที่มีประโยชน์ตามหลักโภชนาการ ควบคู่กับการออกกำลังกายอย่างเหมาะสม
- การฉีดวัคซีน นักวิจัยทางการแพทย์กำลังคิดค้นผลิตวัคซีนชนิดต่าง ๆ ซึ่งในขณะนี้ วัคซีนตัวสำคัญที่กำลังถูกวิจัยและประกาศใช้ในบางประเทศ คือ Dengvaxia (CYD-TDV) ในกลุ่มผู้ป่วยช่วงอายุ 9-45 ปี สำหรับประเทศไทย สถาบันวัคซีนแห่งชาติประเทศไทยรายงานว่า วัคซีนไข้เลือดออกยังอยู่ในระยะทดลองเพื่อความปลอดภัยและประสิทธิผลทางการรักษาสูงสุด และจะนำมาใช้ต่อเมื่อได้รับการรับรองที่แน่นอนแล้วhttp://www.student.chula.ac.th/~60370067/page4.html
https://www.youtube.com/watch?v=wVHCxc51QrY
วิธีการสังเกตผู้ป่วย "โรคไข้เลือดออก"
https://www.youtube.com/watch?v=wfSFBctCTNc