วันจันทร์ที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

วันอังคารที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2561

ใบงานที่ 5


การป้องกันโรคไข้เลือดออก
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ไข้เลือดออก
“โรคไข้เลือดออก” เป็นโรคติดต่อที่เกิดจากเชื้อไวรัสเดงกี ซึ่งมียุงลายเป็นพาหะนำโรค หลังจากถูกยุงที่มีเชื้อกัดจะอยู่ในร่างกายคนประมาณ 5-8 วัน ผู้ป่วยจะเริ่มมีอาการ มีไข้สูงลอย 2-7 วัน มีจุดเลือดออกใต้ผิวหนัง
โรคนี้เกิดขึ้นได้ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ และมักระบาดในฤดูฝน เพราะมียุงเพิ่มมากขึ้น ยุงลายอาศัยอยู่ในภายในบ้านและรอบ ๆ บ้าน ชอบดูดกินเลือดคนเวลากลางวัน ผู้ป่วยที่ติดเชื้อไข้เลือดออกอาจมีอาการเพียงเล็กน้อย หรืออาจจะเกิดอาการรุนแรงจนเสียชีวิต ความรุนแรงของการติดเชื้อขึ้นกับอายุ ภาวะภูมิคุ้มกัน และความรุนแรงของเชื้อ
ลักษณะสำคัญของไข้เลือดออกคือ
  1. ไข้สูงเฉียบพลัน ประมาณ 2-7 วัน
  2. เบื่ออาหาร หน้าแดง ปวดศีรษะ ร่วมกับอาการคลื่นไส้อาเจียน และมีอาการปวดท้องร่วมด้วย
  3. บางรายอาจมีจุดเลือดสีแดงขึ้นตามลำตัว แขน ขา อาจมีเลือดกำเดาออกหรือเลือดออกตามไรฟัน และถ่ายอุจจาระดำเนื่องจากเลือดออก และอาจทำให้เกิดอาการช็อกได้
  4. ในรายที่ช็อกจะสังเกตได้จากอาการไข้ลดแต่ผู้ป่วยซึมลง ตัวเย้น ชีพจรเบาเร็ว หมดสติ หากรักษาไม่ทันอาจเสียชีวิตได้

สาเหตุ และเชื้อที่เป็นสาเหตุของไข้เลือดออก
          โรคไข้เลือดออก เป็นโรคติดต่อที่เกิดจากยุงลายบ้าน ( Aedes aegypti ) ตัวเมีย บินไปกัดคนที่ป่วยเป็นไข้เลือดออก โดยเฉพาะช่วงที่มีไข้สูง เชื้อไวรัสแดงกีจะเพิ่มจำนวนในตัวยุงประมาณ 8-10 วัน เชื้อไวรัสแดงกีจะไปที่ผนังกระเพาะและต่อมน้ำลายของยุง เมื่อยุงกัดคนก็จะแพร่เชื้อสู่คน เชื้อจะอยู่ในร่างกายคนประมาณ 2-7 วันในช่วงที่มีไข้ หากยุงกัดคนในช่วงนี้ก็จะรับเชื้อไวรัสมาแพร่ให้กับคนอื่น ซึ่งส่วนใหญ่มักจะเป็นเด็ก โรคนี้ระบาดในฤดูฝน ยุงลายชอบออกหากินในเวลากลางวัน
          ลูกน้ำของยุงลายบ้าน จะอยู่ในภาชนะขังน้ำชนิดต่างๆ ที่มนุษย์สร้างขึ้น (man-made container) ทั้งที่อยู่ภายในบ้าน และบริเวณรอบๆ บ้าน เช่น โอ่งน้ำดื่มน้ำใช้ บ่อซีเมนต์เก็บน้ำในห้องน้ำ ถ้วยหล่อขาตู้กับข้าวกันมด แจกัน ภาชนะเลี้ยงพลูด่าง จานรองกระถางต้นไม้ ยางรถยนต์เก่าและเศษวัสดุต่างๆที่มีน้ำขัง เป็นต้น
          ลูกน้ำยุงลายสวน มักเพาะพันธุ์อยู่ในแหล่งเพาะพันธุ์ธรรมชาติ (natural container) เช่น โพรงไม้ โพรงหิน กระบอกไม้ไผ่ กาบใบพืชจำพวกกล้วย พลับพลึง หมาก ฯลฯ ตลอดจนแหล่งเพาะพันธุ์ที่มนุษย์สร้างขึ้นและอยู่บริเวณรอบๆบ้านหรือในสวน เช่น ยางรถยนต์เก่า รางน้ำฝนที่อุดตัน ถ้วยรองน้ำยางพาราที่ไม่ใช้แล้ว หรือแม้แต่แอ่งน้ำบนดิน 

โรคไข้เลือดออก เชียงใหม่น่าห่วง ติดอันดับ 4 เขตบริการสุขภาพที่ 1




        สถานการณ์รคไข้เลือดออก จ.เชียงใหม่ อยู่ลำดับที่ 47 ของประเทศ และอยู่ลำดับที่ 4 ของเขตบริการสุขภาพที่ 1 พบผู้ป่วย 60 ราย อัตราป่วย 3.46 ต่อแสนประชากร ขณะนี้ยังไม่พบผู้เสียชีวิตจากโรคไข้เลือดออก ขณะนี้ได้ขอความร่วมมือ ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนร่วมมือ ในการกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงการ จัดการขยะและสิ่งแวดล้อม เนื่องจากฝนเริ่มตกทำให้มีแหล่งเพาะพันธุ์ยุงเพิ่มมากขึ้นไข้เลือดออก เป็นกลุ่มโรคระบาดที่มักจะเกิดขึ้นในช่วงฤดูฝน เนื่องจากยุงที่เป็นพาหะนำเชื้อโรค มีแหล่งเพาะแพร่พันธ์ จากแหล่งน้ำ-น้ำท่วมขัง ปีนี้กำหนดพื้นที่เป้าหมายหลักการดำเนินการ ไม่ให้มีแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลายในพื้นที่ 6 ร. คือ โรงเรือน โรงเรียน โรงพยาบาล โรงแรม โรงงาน และโรงธรรม ปัจจุบันพบว่ามีการแพร่ระบาดเกิดขึ้น ได้เกือบทุกพื้นที่และทุกเวลา ไม่เลือกฤดูกาล
     https://www.chiangmainews.co.th/page/archives/725726
  ช่วงปีที่ผ่านมาเชียงใหม่ อยู่อันดับ 22 ของประเทศ ใน 25 อำเภอ 2,080 หมู่บ้านนั้น อ.เมือง น่าห่วง ส่วนแม่อาย จอมทอง แม่ริม ต้องเฝ้าระวัง จากการเฝ้าระวังอำเภอที่มีอัตราป่วยสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ อ.เมือง,แม่แตง, สันทราย, ดอยสะเก็ด และแม่ริม ที่ผ่านๆมา ผู้เสียชีวิตทั้งหมด เป็นผู้ใหญ่มากกว่าเด็ก โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคเรื้อรัง อ้วนมีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง คาดว่าตลอดปี ไทยจะพบผู้ป่วย 7-8 หมื่นรายสาธารณสุขได้ประสานความร่วมมือกับทุกท้องถิ่นทุก อปท.ให้ร่วมกันรณรงค์ การกำจัดแหล่งเพาะลูกน้ำยุงลาย ซึ่งที่ผ่านมา ทาง ทม.แม่โจ้ร่วมกับ 19 ชุมชน ก็ดำเนินการจัดการมาอย่างต่อเนื่อง ให้เป็นพื้นที่ปลอดลูกน้ำยุงลาย ปีที่มีการแพร่ระบาดมากและรุนแรง
วิธีการป้องกันการเกิดโรคไข้เลือดออก ทำได้โดยกำจัดพาหะนำโรคอย่างยุงลายบ้านและยุงลายสวนที่ออกหากินในเวลากลางวันเป็นหลัก รวมถึงการดูแลรักษาสุขภาพและการใช้ชีวิต ดังนี้

  • กำจัดยุงลายที่เป็นพาหะนำโรค ทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายในบริเวณบ้านและชุมชน คว่ำ ปิดฝาภาชนะ หรือไม่ปล่อยให้ภาชนะมีน้ำขังเพื่อป้องกันยุงมาวางไข่ ใส่ทรายอะเบท (ABATE) ตามภาชนะใส่น้ำ อย่างแจกัน ถังเก็บน้ำ เพื่อกำจัดลูกน้ำยุงลาย เลี้ยงปลาให้กินลูกน้ำยุงลายเช่น ปลากัด ปลาหางนกยูง ฉีดพ่นยาฆ่าแมลงหรือสารเคมีกำจัดยุงเป็นระยะ โดยขณะฉีดพ่นควรแต่งกายอย่างมิดชิด สวมหมวก ถุงมือ และหน้ากากเพื่อป้องกันสารเคมีเข้าสู่ร่างกาย หรือแจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขหากพบว่ามีการระบาดของยุงในชุมชน
  • ป้องกันการติดเชื้อ แต่งกายมิดชิด สวมเสื้อและกางเกงขายาวเมื่อออกนอกบ้าน ฉีดสเปรย์หรือทาครีมป้องกันยุง หลีกเลี่ยงการอยู่ในแหล่งชุมชนที่มีคนจำนวนมากและพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อ ไม่อยู่ในบริเวณที่อับชื้นหรือตามมุมมืด ติดมุ้งลวดที่ประตูและหน้าต่าง ตรวจเช็คความเรียบร้อยของประตู หน้าต่าง ผนังบ้าน ไม่ให้มีรูหรือช่องให้ยุงเข้ามาภายในบ้านได้
  • สร้างภูมิคุ้มกันที่ดี กินอาหารที่มีประโยชน์ตามหลักโภชนาการ ควบคู่กับการออกกำลังกายอย่างเหมาะสม
  • การฉีดวัคซีน นักวิจัยทางการแพทย์กำลังคิดค้นผลิตวัคซีนชนิดต่าง ๆ ซึ่งในขณะนี้ วัคซีนตัวสำคัญที่กำลังถูกวิจัยและประกาศใช้ในบางประเทศ คือ Dengvaxia (CYD-TDV) ในกลุ่มผู้ป่วยช่วงอายุ 9-45 ปี สำหรับประเทศไทย สถาบันวัคซีนแห่งชาติประเทศไทยรายงานว่า วัคซีนไข้เลือดออกยังอยู่ในระยะทดลองเพื่อความปลอดภัยและประสิทธิผลทางการรักษาสูงสุด และจะนำมาใช้ต่อเมื่อได้รับการรับรองที่แน่นอนแล้วผลการค้นหารูปภาพสำหรับ การป้องกันไข้เลือดออกhttp://www.student.chula.ac.th/~60370067/page4.html

https://www.slideshare.net/prachayasriswang3/ss-52757822

ไข้เลือดออกในหน้าฝน

https://www.youtube.com/watch?v=wVHCxc51QrY

วิธีการสังเกตผู้ป่วย "โรคไข้เลือดออก"

https://www.youtube.com/watch?v=wfSFBctCTNc

วันอังคารที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2561

ใบงานที่ 4

ใบงานที่ 4
See the source image
 พ.ร.บ คอมพิวเตอร์

 

เนื่องจาก พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฉบับปรับปรุงแก้ไข พ.ศ. 2560 มีผลบังคับใช้แล้วเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคมที่ผ่านมา ตอนนี้ทางเราได้เอกสารฉบับย่อที่อ่านแล้วเข้าใจง่ายจึงนำมาให้อ่านกันนะครับ
 
     
    



ที่มา : ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานปลัดกระทรวงคมนาคม
นอกจากนี้การฝากร้านตาม Social Media ของคนอื่นโดยไม่ได้รับอนุญาตถือว่าเป็นการ SPAM มีความผิดด้วยครับ โดยปรับข้อความละไม่เกิน 2 แสนบาท *(มีอ้างอิงท้ายบทความ) ทั้งนี้แอดมินเว็บไซต์ แอดมินเว็บบอร์ด แอดมินเพจ แอดมิน Social Media ต่างๆ หากพบผู้ชมมาคอมเมนท์ที่เข้าข่ายผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ (รวมถึงมีการได้รับแจ้ง) เมื่อลบแล้วจะพ้นความผิด
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฉบับปรับปรุงแก้ไข พ.ศ. 2560
สาระสำคัญพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2560

ดังนั้นทางเราขอเตือน

อย่าแชร์ อัพโหลด โพสต์ แชทหรือ Like ข้อมูลที่อาจเป็นความเท็จหรือใส่ร้ายผู้อื่น สร้างความเสียหาย รวมถึงหมิ่นประมาท ควรคิดก่อนทำกันนะครับ และอย่าทำให้ระบบคอมพิวเตอร์ของคนอื่นเสียหายนะครับ

ราชกิจจานุเบกษา ประกาศใช้ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ 2560 แล้ว




วันที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2560 สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร มีพระราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศใช้ กฎหมายว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ดังต่อไปนี้
มาตรา 1 พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า “พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2560”
มาตรา 2 พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนดหนึ่งร้อยยี่สิบวันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นต้นไป
มาตรา 3 ให้ยกเลิกความในมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“มาตรา 4 ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้ และให้มีอำนาจแต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่กับออกกฎกระทรวงและประกาศเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้กฎกระทรวงและประกาศนั้น เมื่อได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้วให้ใช้บังคับได้”
มาตรา 4 ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นวรรคสองและวรรคสามของมาตรา 11 แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550
“ผู้ใดส่งข้อมูลคอมพิวเตอร์หรือจดหมายอิเล็กทรอนิกส์แก่บุคคลอื่นอันมีลักษณะเป็นการก่อให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญแก่ผู้รับข้อมูลคอมพิวเตอร์หรือจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ โดยไม่เปิดโอกาสให้ผู้รับสามารถบอกเลิกหรือแจ้งความประสงค์เพื่อปฏิเสธการตอบรับได้โดยง่าย ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองแสนบาท
ให้รัฐมนตรีออกประกาศกำหนดลักษณะและวิธีการส่ง รวมทั้งลักษณะและปริมาณของข้อมูลคอมพิวเตอร์หรือจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งไม่เป็นการก่อให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญแก่ผู้รับและลักษณะอันเป็นการบอกเลิกหรือแจ้งความประสงค์เพื่อปฏิเสธการตอบรับได้โดยง่าย”
มาตรา 5 ให้ยกเลิกความในมาตรา 12 แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“มาตรา 12 ถ้าการกระทำความผิดตามมาตรา 5 มาตรา 6 มาตรา 7 มาตรา 8 หรือมาตรา 11 เป็นการกระทำต่อข้อมูลคอมพิวเตอร์หรือระบบคอมพิวเตอร์ที่เกี่ยวกับการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของประเทศ ความปลอดภัยสาธารณะ ความมั่นคงในทางเศรษฐกิจของประเทศหรือโครงสร้างพื้นฐานอันเป็นประโยชน์สาธารณะ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงเจ็ดปี และปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงหนึ่งแสนสี่หมื่นบาท
ถ้าการกระทำความผิดตามวรรคหนึ่งเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายต่อข้อมูลคอมพิวเตอร์หรือระบบคอมพิวเตอร์ดังกล่าว ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี และปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท
ถ้าการกระทำความผิดตามมาตรา 9 หรือมาตรา 10 เป็นการกระทำต่อข้อมูลคอมพิวเตอร์หรือระบบคอมพิวเตอร์ตามวรรคหนึ่ง ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สามปีถึงสิบห้าปี และปรับตั้งแต่หกหมื่นบาทถึงสามแสนบาท
ถ้าการกระทำความผิดตามวรรคหนึ่งหรือวรรคสามโดยมิได้มีเจตนาฆ่า แต่เป็นเหตุให้บุคคลอื่นถึงแก่ความตาย ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสี่แสนบาท”
มาตรา 6 ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นมาตรา 12/1 แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550
“มาตรา 12/1 ถ้าการกระทำความผิดตามมาตรา 9 หรือมาตรา 10 เป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่บุคคลอื่นหรือทรัพย์สินของผู้อื่น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสิบปี และปรับไม่เกินสองแสนบาทถ้าการกระทำความผิดตามมาตรา 9 หรือมาตรา 10 โดยมิได้มีเจตนาฆ่า แต่เป็นเหตุให้บุคคลอื่นถึงแก่ความตาย ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสี่แสนบาท”
มาตรา 7 ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นวรรคสอง วรรคสาม วรรคสี่ และวรรคห้าของมาตรา 13แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550
“ผู้ใดจำหน่ายหรือเผยแพร่ชุดคำสั่งที่จัดทำขึ้นโดยเฉพาะเพื่อนำไปใช้เป็นเครื่องมือในการกระทำความผิดตามมาตรา 12 วรรคหนึ่งหรือวรรคสาม ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
ผู้ใดจำหน่ายหรือเผยแพร่ชุดคำสั่งที่จัดทำขึ้นโดยเฉพาะเพื่อนำไปใช้เป็นเครื่องมือในการกระทำความผิดตามมาตรา 5 มาตรา 6 มาตรา 7 มาตรา 8 มาตรา 9 มาตรา 10 หรือมาตรา 11หากผู้นำไปใช้ได้กระทำความผิดตามมาตรา 12 วรรคหนึ่งหรือวรรคสาม หรือต้องรับผิดตามมาตรา 12 วรรคสอง หรือวรรคสี่ หรือมาตรา 12/1 ผู้จำหน่ายหรือเผยแพร่ชุดคำสั่งดังกล่าวจะต้องรับผิดทางอาญาตามความผิดที่มีกำหนดโทษสูงขึ้นด้วย ก็เฉพาะเมื่อตนได้รู้หรืออาจเล็งเห็นได้ว่าจะเกิดผลเช่นที่เกิดขึ้นนั้น
ผู้ใดจำหน่ายหรือเผยแพร่ชุดคำสั่งที่จัดทำขึ้นโดยเฉพาะเพื่อนำไปใช้เป็นเครื่องมือในการกระทำความผิดตามมาตรา 12 วรรคหนึ่งหรือวรรคสาม หากผู้นำไปใช้ได้กระทำความผิดตามมาตรา 12 วรรคหนึ่งหรือวรรคสาม หรือต้องรับผิดตามมาตรา 12 วรรคสอง หรือวรรคสี่ หรือมาตรา 12/1 ผู้จำหน่ายหรือเผยแพร่ชุดคำสั่งดังกล่าวต้องรับผิดทางอาญาตามความผิดที่มีกำหนดโทษสูงขึ้นนั้นด้วย
ในกรณีที่ผู้จำหน่ายหรือเผยแพร่ชุดคำสั่งผู้ใดต้องรับผิดตามวรรคหนึ่งหรือวรรคสอง และตามวรรคสามหรือวรรคสี่ด้วย ให้ผู้นั้นต้องรับโทษที่มีอัตราโทษสูงที่สุดแต่กระทงเดียว”
มาตรา 8 ให้ยกเลิกความในมาตรา 14 แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“มาตรา 14 ผู้ใดกระทำความผิดที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปีหรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ที่มา https://www.marketingoops.com/news/viral-update/computer-law/



พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฉบับปรับปรุงแก้ไข พ.ศ. 2560

  

 

https://www.youtube.com/watch?v=Ie0YHG2rjMQ

ความแตกต่างของ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ปี 2550 และ 2560


https://www.youtube.com/watch?v=etxwU6RRMY4

วันอังคารที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2561

ใบงานที่ 3


ใบงานที่ 3

รูปภาพที่เกี่ยวข้อง

BLOGGER คืออะไร ???

Blog มาจากศัพท์คำว่า WeBlog บางคนอ่านคำๆ นี้ว่า We Blog บางคนอ่านว่า Web Log แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ทั้ง 2 คำ บ่งบอกถึงความหมายเดียวกัน ว่านั่นคือบล็อก (Blog) โดยคำว่า weblog นั้นมาจาก web (เวิลด์ไวด์เว็บ) และ log (ปูม, บันทึก) ซึ่งรวมกันหมายถึง “ปูมเว็บ” หรือ บันทึกบนเวิล์ดไวด์เว็บ นั่นเอง หรือ ถ้าจะขยายความมากไปกว่านั้น Blog ก็จะหมายถึง การบันทึกบทความของตนเอง (Personal Journal) ลงบนเว็บไซต์ มีการจัดเรียง “เรื่อง” หรือ post เรียงลำดับ โดยเรื่องใหม่จะอยู่ด้านบนสุด ส่วนเรื่องเก่าก็จะอยู่ด้านล่างสุด ซึ่งจะมีวันที่-เวลาเขียนกำกับไว้ เป็นที่นิยมกันในหมู่มาก

มีหลายครั้งที่เกิดความเข้าใจกันผิดว่า Blog เป็นแค่ไดอารี่ออนไลน์ แต่ความเป็นจริงแล้ว ไดอารี่ออนไลน์เปรียบเสมือน เนื้อหาประเภทหนึ่งของบล็อกเท่านั้น เพราะบล็อกมีเนื้อหาที่หลากหลาย และครอบคลุมได้ทุกเรื่อง ตั้งแต่การบันทึกเรื่องส่วนตัวอย่างไดอารี่ จนถึงการบันทึกบทความเฉพาะด้านต่างๆ เช่น เรื่องการเมือง เรื่องธุรกิจ เรื่องกล้องถ่ายรูป เรื่องกีฬา เป็นต้น โดยจุดเด่นที่ทำให้บล็อก เป็นที่นิยมก็คือ ผู้เขียนบล็อก จะมีการแสดงความคิดเห็นของตนเองใส่ลงไปในบทความนั้นๆ มีการสื่อสารกับผู้อ่านผ่านทางระบบ comment และมีการถ่ายทอดอย่างเป็นกันเอง โดยบล็อกบางแห่งจะมีอิทธิพลในการโน้มน้าวจิตใจผู้อ่านสูงมาก แต่ในขณะเดียวกัน บางบล็อกก็เขียนขึ้นมาเพื่อให้อ่านกันในกลุ่มเฉพาะเช่นเพื่อน หรือคนในครอบครัว Blog ให้ อิสระในการเขียนเรื่องอะไรก็ได้ตามแต่ใจผู้เขียน โดยจะสะท้อนบุคลิกของผู้เขียนออกมา ถ้าคนไหนเป็นคนตลก ก็จะเขียนออกมาได้สนุกสนาน น่าอ่าน, ใครชอบเลี้ยงสุนัขจะเล่าเรื่องสุนัขของตัวเอง เป็นต้น Blog มีทั้งบริการแบบเสียค่าใช้จ่าย และไม่เสียค่าใช้จ่าย ขึ้นอยู่กับรูปแบบของการให้บริการ ซึ่งมักจะติดตั้ง Tool ให้สามารถใช้งานได้อย่างง่ายๆ โดยไม่จำเป็นต้องมีความรู้ด้านคอมพิวเตอร์มากนัก

Blogger สามารถแปลได้ 2 ความหมายคือ
1. คนเขียนบล็อก หรือเจ้าของบล็อกนั่นเอง
2. ระบบ update blog หรือ blog engine ที่เรียกว่า Blogger.com นั่นเอง

ซึ่งสามารถประเภทจำแนกได้คร่าวๆ ดังนี้

1. บล็อกเกอร์อิสระ นักเขียนบล็อกประเภทนี้จะเขียนบล็อกของตัวเอง โดยจำกัดบล็อกของตัวเองไว้ว่าเป็นบล็อกส่วนตัว สำหรับเขียนเรื่องราวส่วนตัว หรือความคิดส่วนตัว โดยไม่ได้นำเสนอบล็อกของตัวเองเพื่อการอย่างอื่น นอกจากการชมเพื่อความบันเทิง, ความสนุกในหมู่เพื่อนฝูง

2. บล็อกเกอร์แนวธุรกิจ => รับทำบล๊อกเกอร์
นักเขียนบล็อกกลุ่มนี้ มักจะเขียนเนื้อหาของ blog ที่เป็นการแนะนำผลิตภัณฑ์หรือบริการของตน คือใช้ blog เป็นเครื่องมือในการทำการตลาดนั่นเอง

3. บล็อกเกอร์แบบองค์กร บล็อกเกอร์กลุ่มนี้ จะใช้ blog เพื่อเป็นการสื่อสารภายใน ไม่ว่าจะเป็นภายในองค์กร เช่นภายในบริษัท หรือใช้สื่อสารภายในทีมฟุตบอล หรือสโมสรต่างๆ
4. บล็อกเกอร์มืออาชีพ บล็อกเกอร์ที่เขียนบล็อกอย่างเดียว โดยมีรายได้จากบล็อกเพื่อยังชีพ บางคนได้รับค่าจ้างเป็นเงินเดือน ให้เขียนบล็อกอย่างเดียว บางคนเขียนบล็อกของตัวเอง โดยได้รับค่าโฆษณาต่างๆ จากผู้สนับสนุน กลุ่มนี้อาจเป็นบริษัทที่เขียนบล็อกโดยเฉพาะ ที่เห็นชัดเจนก็คือ blogger ชาวต่างประเทศ เพราะเขียนให้คนอ่านมากๆ แล้วใช้โฆษณาของ Google Adsense มาติดไว้ บางคนมีก็รายได้จากการเป็น presenter ให้สินค้าต่างๆ


มาดูวิธีการสร้าง BLOG กันเลย

1.ให้เราทำการพิมพ์ในช่อง URL ด้านบนว่า www.blogspot.com หรือการเข้าสู่เว็บ blogspot นั้นเอง ตามภาพด้านบน



2.ก็จะได้หน้าตาเป็นแบบนี้ให้เราทำการล๊อกอินเข้าไป โดยใช้ Gmail ของเรา



3.พอทำการล๊อกอินเสร็จก็จะได้หน้าตาเป็นแบบนี้ให้ทำการคลิกที่ บล๊อกใหม่


4.พอมาถึงหน้านี้
 ในช่องหัวข้อ ให้เราทำการตั้งชื่อหัวข้อของบล๊อกของเรา(เรื่องที่เราจะเขียนบล๊อก หรือ Title)
ในช่องที่อยู่ ให้เราทำการตั้งชื่อ URL ของเรา อาทิเช่น gunoob.blogspot.com , cnx-it.blogspot.com เป็นต้น (.blogspot.com จะมาการเติมให้โดยอัตโนมัติ ให้พิมพ์แค่ gunoob หรือ cnx-it)
ในช่องแม่แบบ ให้เราทำการเลือก รูปแบบของบล๊อกหรือ Theme นั้นเอง (แนะนำให้ใช้แบบง่าย ธีมสามารถเปลี่ยนภายหลังได้)
5.จะได้อกมาเป็นแบบนี้ให้ทำการคลิกเข้าไปเลย (ของผมได้ทำการสร้างใว้ก่อนแล้ว)
6.จะได้หน้าต่างเป็นแบบนี้ให้ทำการคลิกที่ บมความใหม่ เพื่อทำการเขียนบทความหรือ blog

7.พอได้หน้าตาแบบนี้ให้เราทำการเขียนบล๊อก หรือบทความที่เราต้องการได้เลย
ในช่องโพสต์ด้านบนตัวหนังสือสีส้ม ให้เราทำการเขียนหัวข้อหรือหัวเรื่อง บทความที่เราต้องการเขียน
การเขียนบทความ ข้อมูล หรือบล๊อกนั้นสามารถทำการเขียนได้ใช้ กระดาษ ตรงกลางหน้า
ด้านขวามือจะมีป้ายกำกับ ให้เราทำการคลิกเพื่อพิมพ์ คำ ที่ผู้อื่นสามารถค้นบทความของเราเจอได้
การใส่ลิ้งให้ทำการคลิกที่ ลิ้ง ในแทบเครื่องมือ เพื่อทำการใส่ URL ที่เราต้องการลิ้ง
การใส่รูปภาพ สามารถทำได้โดยการคลิกที่ แทกรูปภาพ ด้านขวา ลิ้ง ในแทบเครื่องมือ แล้วทำการเลือกไฟล์เพื่ออัพโหลดรูปภาพแล้ว คลิกรูปภาพที่ต้องการเลือก แล้วกดเพิ่มรายการที่เลือก
ถ้าทำการเขียนบทความเสร็จ ให้ทำการคลิกที่ เผยแพร่ เพื่อทำการเผยแพร่บทความที่สามารถให้ผู้อื่นได้อ่าน หรือเข้าชมได้

8.การเปลี่ยนธีม ตามที่เราต้องการ ให้ทำการคลิกที่ แม่แบบ จะมีให้เราเลือกธีมตามที่เราต้องการ ถ้าจะเอาอันไหนให้ทำการคลิก แล้วกด ใช้กับบล๊อก(ปุ่มสีส้ม)เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จ 
(ธีมเราสามารถออกแบบเองและทำเองตามที่เราต้องการได้)




วิดีโอสอนการสร้าง BLOGGER แบบเข้าใจง่าย




การหารายได้จาก BLOGGER

วันอังคารที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

My first blog


ABOUT ME



HI !! สวัสดีครับผมนาย ศุภวิชญ์ นันใจ ชื่อเล่นชื่อปิงปอง 
เกินวันที่ 12 เดือน ตุลาคม ปี 2543
ตอนนี้อายุ 17 ปี กำลังศึกษาอยู่ที่โรงเรียนยุพราชวิทาลัย ชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 6
มาทำความรู้จักกันเลยดีกว่า !!!


My Character

ส่วนตัวคิดว่าตัวเองเป็นคนตลกๆชอบกินของอร่อยๆเวลาตอนอยู่โรงเรียนก็จะเล่นเกมกับเพื่อนบ้างแต่ปกติเวลาว่างก็จะชอบไปเล่นบาสกันปีนี้เป็นปีสุดท้ายแล้วที่จะอยู่ที่โรงเรียนนี้แล้วก็เลยตัดสินใจว่าปีนี้จะตั้งใจเรียนให้มากขึ้นมากกว่าเดิมและพยายามมากขึ้นด้วย

FRIEND



และนี้คือกลุ่มเพื่อนๆทุกคนในห้องของผมเองพวกเราอยู่ด้วยกันมาตั้งแต่ ม.4 จนตอนนี้ ม.6 
กันแล้วมีทั้งเรื่องดีๆและไม่ดีแต่โดยส่วนรวมแล้วพื่อนๆทุกคนน่ารักมาก

MY FAMILY



สวัสดีค้าบ ผมไอรินครับ อายุได้ 2 เดือนแล้ว 
มาอยู่กับเจ้าของได้หลายเดือนแล้วค้าบ
น่ารักมากๆเลย

PICTURE/VIDEO



ขอบคุณวีดีโอจาก https://www.youtube.com/watch?v=0rAvnIGMUL8
ส่วนตัวที่ชอบวีดีโอนี้เพราะมีเพลงที่ชอบอยู่แถมมีมิวสิควีดีโอ
ที่มีความคมชัดของภาพที่ระดับ 8K ซึ่งถือว่าเป็นระดับความคมชัดที่ชัดมาก



ขอบคุณรูปภาพจาก http://klay-klay.com/blog/

เหตุผลที่ชอบรูปนี้เพราะสื่อได้หลากหลายความหมาย
และมีคอนเซ็ปการถ่ายรูปที่ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเคยทำมาก่อน

FUTURE JOB


ขอบคุณรูปภาพจาก https://www.theodysseyonline.com/the-engineers-role-to-the-public
อยากเป็นวิศวะ !!!
 ก่อนอื่นเลยเรามาทำความรู้จักกับวิศวะกันก่อนดีกว่า        
ดูเหมือนว่างานวิศวะจะเป็นหนึ่งในงานในฝันของหลาย ๆ คน  บางคนมองหางานนี้เพราะต้องการงานที่มีความท้าทาย ทั้งในด้านการแก้ปัญหา และในด้านการปฏิบัติการ  แต่คุณสมบัติเหล่านี้เพียงพอแล้วหรือไม่ที่จะทำให้เราได้งานวิศวกร เพราะงานวิศวะมีหลากหลายสาขา การเลือกงานให้เหมาะกับเราจึงมีความจำเป็นอย่างมาก           
งานวิศวกรคืออะไร        
ผู้ที่จะสมัครงานวิศวกรได้ต้องมีคุณสมบัติอย่างไรบ้าง jobsDB จะมาไขข้อข้องใจในหลาย ๆ ด้านเกี่ยวกับงานวิศวะให้ได้ทราบกัน          
ต้องเรียนจบอะไร จึงจะได้เป็นวิศวกร           
เป็นที่แน่นอนว่า งานวิศวกรเป็นงานที่ต้องอาศัยความรู้ความสามารถเฉพาะทาง ไม่สามารถมาฝึกหัดกันได้ง่าย ๆ เหมือนสายงานอื่น ๆ เพราะเป็นงานที่รวมวิทยาศาสตร์ และคณิตศาสตร์เข้าไว้ด้วยกัน นายจ้างส่วนใหญ่จึงมองหานักศึกษาจบใหม่ระดับปริญญาตรีขึ้นไป เพราะนั่นเป็นการรับรองว่าเขาจะได้คนที่มีความรู้ความสามารถ และมีคุณภาพเพียงพอ